ข้อดีของปากกาหมึกซึมที่ทำให้เราใช้ได้ตลอดทุกงาน
การเขียนนั้น เรียกได้ว่ามีวิวัฒนาการ และอยู่คู่มากับมนุษย์ของเรามาแล้วหลายยุคหลายสมัย หากเราจะย้อนกลับไป ก็ตั้งแต่การเขียนโดยการใช้ก้อนหินขีดลงบนผนังถ้ำ เป็นการเขียนด้วยมือในยุคแรก ต่อมาได้มีการพัฒนา และคิดค้นสิ่งที่เรียกว่ากระดาษขึ้นมา ตอนนั้นมนุษย์ก็ก้าวเข้าสู่รูปแบบของการเขียนแบบแท้จริง พัฒนาการมีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีปากกาแบบขนนก และแบบจุ่มหมึก แต่ในตอนนั้นยังไม่มีแบบที่มีน้ำหมึกอยู่ในตัว การที่เราพกพาไปไหนมาไหนนั้น จึงไม่ใช่เรื่องสะดวกสบาย และไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายเหมือนกับในปัจจุบันนี้เท่าไหร่นัก
แต่แล้ว ปากกาหมึกซึมก็ได้ถือกำเนิดขึ้น สิ่งนี้นับว่าเป็นเครื่องเขียนรูปแบบแรกๆ ที่มันเปลี่ยนรูปแบบการเขียนให้ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะต้องจุ่มหมึก หรือพกพาตลับหมึกไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งวิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการที่ผู้คนใช้กันมาอย่างยาวนาน ถึงจะหาดูได้ยาก แต่ก็อาจยังมีอยู่ในปัจจุบันเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าปากกาในปัจจุบันจะมีแบบลูกลื่น หรือแบบที่เป็นเจล มาให้เราได้ใช้งานแตกต่างกันมากมาย แต่ไม่ว่าอย่างไรแบบหมึกซึม ก็ยังคงได้รับความนิยม เนื่องจากมีข้อดี และมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย
ดังนั้นด้วยเหตุนี้ วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของปากกาหมึกซึม ว่ามันมีประโยชน์อะไร ข้อดีของปากกาชนิดนี้ ที่ทำให้ได้รับความนิยมตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
เขียนง่าย
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมันกันก่อน ปากกาในรูปแบบอื่น ยกตัวอย่างเช่นแบบลูกลื่น แบบที่เป็นเจล หรือแบบโรลเลอร์บอล เหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยแรงกด หรือน้ำหนักที่จุดสัมผัสระหว่างบริเวณหัวกับตัวกระดาษ เพื่อให้ลูกกลิ้งที่อยู่บริเวณหัว ทำการกดลึกลงไปเพียงเล็กน้อย และเปิดช่องทางให้น้ำหมึกไหลออกมา แต่หากเป็นแบบหมึกซึม วิธีการจะแตกต่างออกไป คือน้ำหมึกที่เกิดขึ้นนั้น จะไปรออยู่บริเวณของหัวอยู่แล้ว เพียงแค่เราทำการลากลงไปบนกระดาษเบาๆ ก็สามารถที่จะเขียนได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้มันค่อนข้างที่จะเขียนง่าย
มีอิสระในเรื่องของการเปลี่ยนน้ำหมึก
อีกข้อดีที่เห็นได้ชัดของปากกาหมึกซึมก็คือ เรื่องของการเลือกใช้หมึก ที่แทบจะเป็นไปได้อย่างอิสระเลยทีเดียว มีสีสันของน้ำหมึกให้เราเลือกด้วยกันมากมายหลากหลาย แล้วแต่ผู้ใช้งานจะนำมาเลือกใช้ ด้วยเหตุนี้เองผู้ใช้งาน จึงค่อนข้างมีอิสระในการเลือกมากกว่า หากอยากที่จะทำการเปลี่ยนสีน้ำหมึก หรืออาจจะเปลี่ยนแบรนด์น้ำหมึกที่ใช้ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน สามารถที่จะเลือกหมึกแบบที่ตัวเองชอบ และเขียนออกมา แบบที่ตัวเองต้องการได้เลย
ดูแลรักษาง่าย และมีความยั่งยืนสูง
ปากกาหมึกซึมนั้น ส่วนใหญ่แล้ว จะถูกออกแบบมาให้ไม่ได้มีกลไกที่มีความซับซ้อนอะไรมากมายนัก ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงสามารถที่จะบำรุงรักษามันได้ด้วยตัวเองในระดับหนึ่ง หากในกรณีเลวร้ายที่สุด ทางแบรนด์ผู้ผลิต เกิดตัดสินใจเลิกผลิตมันขึ้นมา หรือทางแบรนด์จำเป็นที่จะต้องปิดกิจการไป ก็ยังมีร้านที่จะรับซ่อม หรืออาจจะซ่อมมันได้ด้วยตนเองด้วยซ้ำ โดยอาจจะใช้ชิ้นส่วนอื่นๆ หากมองมันเป็นของสะสมชิ้นหนึ่งแล้ว เรียกได้ว่ามีความประหยัดกว่า และเทียบกับอายุการใช้งานที่ยาวนานได้ถึงขนาดนี้
ตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาดก็ค่อนข้างมาก
ปากกาหมึกซึมนั้น เรียกได้ว่ามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของตัวมันเอง มีทั้งแบบปากกาโลหะ ปากกาพลาสติก เรื่องของราคา ที่สามารถหาซื้อได้ ด้วยราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงแบบที่ผู้บริหารใช้ ราคาเป็นหลักหมื่นก็มี มีแม้กระทั่งแบบที่กลายมาเป็นงานศิลปะราคาหลักล้านเลย