ปากกาหมึกซึม ข้อดีที่แตกต่างจากปากกาลูกลื่น
การใช้งานปากกามีความสำคัญในขั้นตอนปฏิบัติงานประจำวิชาชีพ หลากหลายสาขาวงการ หรือแม้แต่การนำไปใช้เป็นอุปกรณ์การเขียน ในเรื่องของการเรียน ซึ่งในปัจจุบันแม้ว่าจะมีการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องต่อระบบการเรียน ในวงกว้างแล้วก็ตาม แต่ทว่าปากกาก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานที่สะดวก ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ใด ๆ สามารถพกพาและหยิบออกมาจดกับสมุดได้ในทุกที่ อย่างได้รับความสะดวกคล่องตัวสูงกว่า
อีกทั้งยังง่ายแก่การตรวจงานของผู้สอน และง่ายต่อการจัดเก็บหรือ ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าและดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลถึงความเสียหายจากการขีดข่วนหรือตกแตกชำรุดของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือแม้ว่าจะมีการใช้สื่อพกพาประเภทกาดร์หรือแฟลชไดร์ ก็ตาม แต่ก็ยังไม่อำนวยต่อความสะดวกและความรวดเร็วได้ดีเท่าสมุดที่จดผ่านปากกา รวมถึงไม่มีปัญหาเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์อีกด้วย
อย่างไรก็ตามนอกจากที่ปากกา จะได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใดก็ตาม แต่ทั้งนี้การเลือกใช้ปากกาของแต่ละคน หรือของแต่ละสายงาน ก็ยังมีความแตกต่างกันด้วยอยู่เช่นกัน
โดยปากกานั้นแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ซึ่งหลัก ๆ แล้วการแยกชนิด จะจำแนกจากลักษณะของ ประเภทน้ำหมึก ประเภทของหัวปากกา และประเภทของด้ามปากกา เป็นหลัก ส่วนนวัตกรรมใดที่มีเพิ่มเติมก็จะมีชื่อเรียกเพิ่มเข้าไปจากชื่อเรียกหลัก อาทิเช่น ปากกาหัวลูกลื่นแบบปุ่มกด และปากกาหัวลูกลื่นแบบมีปลอกปิดปากกา เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของปากกาอีกประเภทซึ่งก็คือปากกาหมึกซึม นั้นจะหมายถึงลักษณะของหัวปากกา ซึ่งจะมีระบบการถ่ายน้ำหมึกลงสู่วัสดุรองรับการเขียนอย่างแตกต่างออกไปจาก ปากกาหัวลูกลื่น
ซึ่งในกรณีของปากกาหัวลูกลื่น ในบริเวณส่วนหัวของปากกาจะมีการติดตั้งส่วนประกอบสำคัญก็คือโลหะทรงกลมขนาดเล็ก เคลื่อนที่ได้ในแบบลูกกลิ้ง ซึ่งจะคอยเคลือบน้ำหมึกและเขียนลงบนกระดาษหรือวัสดุใด ๆ ที่รองรับ ด้วยปริมาณของน้ำหมึกที่คงที่ ซึ่งจะเหมาะกับการเขียนลายเส้นที่ต้องการความสะอาดตาดูเรียบร้อย และต้องการความรวดเร็วของการเขียน โดยจะได้รับความนิยมสำหรับการนำมาใช้ในการเขียนตัวอักษร เขียนลายเซ็นต์ เขียนรายงานต่าง ๆ เป็นต้น หรือในงานศิลปบางประเภทก็มีการนำปากกาลูกลื่นมาใช้งานด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ปากกาในแบบหมึกซึม หัวของปากกาชนิดนี้จะมีลักษณะที่บรรจุวัสดุเส้นใยเล็ก ๆ โดยจะทำงานในลักษณะคล้ายพู่กันขนาดเล็กจิ๋ว แต่มีรูปแบบที่สามารถควบคุมกำกับลายเส้นได้คงที่กว่าพู่กัน ซึ่งเวลานำไปใช้ในงานเขียน งานวาด หรือนำไปจดบันทึกต่าง ๆ ก็จะได้ลายเส้นที่มีความเข้มคมชัดมากกว่าปากกาลูกลื่น และยังสามารถแช่หัวปากกาและออกแรงกดเล็กน้อยเพิ่มขึ้น เพื่อให้หมึกซึมในจุดเดิมมากขึ้นอีก นั่นจึงทำให้ปากกาหมึกซึมได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก ในการนำไปใช้ร่วมกับงานออกแบบต่าง ๆ หรือแม้แต่การนำไปใช้ในการเซ็นต์ลายเซนต์ ก็มีผู้ที่เลือกใช้ปากกาหมึกซึมอยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน
นอกจากนี้ ปากกายังมีหลายรูปแบบ หลายวัสดุให้เลือกใช้ตามความชอบ สไตล์ และดีไซน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปากกาพลาสติก ปากกาโลหะ ปากกาไม้ หรืออาจจะเป็นดีไซน์อื่น ๆ เช่น ปากกาตั้งโต๊ะ หรือปากการุปแบบที่สามารถขึ้นรูปใหม่ตามความต้องการของผู้ใช้งานก็ได้
โดยเฉพาะการนำไปเขียนลงบนวัสดุที่อาจไม่ได้ผลิตขึ้นมาสำหรับรองรับการเขียน อย่างเช่น ข้าวของเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ กรณีนี้ปากกาหมึกซึมก็จะมีโอกาสที่จะเขียนได้ติดบนวัสดุมากกว่าปากกาลูกลื่นนั่นเอง ทั้งด้วยความชัดเจนมองเห็นสังเกตลายเส้นได้ง่าย และยังกำหนดขนาดของลายเส้นได้มากกว่าปากกาลูกลื่น จึงทำปากกาหมึกซึมมีบทบาทในวิถีผู้คนไม่แพ้ปากกาลูกลื่นเลยทีเดียว