ลักษณะเด่นของปากกาหมึกซึม ที่ทำให้แตกต่าง และน่าใช้กว่าปากกาประเภทอื่น
เมื่อเอ่ยถึงสินค้าอย่างปากกา ก็แน่นอนว่าหลายคนย่อมคุ้นเคย และผ่านการใช้งานมาในระดับนึงแล้ว เพราะแม้ว่าปัจจุบันยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปจนอาจเรียกได้ว่าเข้าสู่ยุคดิจิทัลกันแล้ว แต่ความจำเป็นในการใช้งานปากกาสำหรับจดโน๊ต บันทึกข้อความต่างๆ ลงกระดาษก็ถือว่ายังไม่ได้เลือนหายไปไหน เพราะในหลายกรณีการจดบันทึกข้อความลงกระดาษยังคงมีความสะดวก รวดเร็วกว่าการพิมพ์ หรือบันทึกข้อความลงอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วการจดโน๊ต ข้อความใดๆ ลงกระดาษเรามักคุ้นเคยกับการใช้งานปากกาพลาสติก ปากกาโลหะประเภทลูกลื่น หรือประเภทเจลซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะหาซื้อได้ง่าย และมีราคาถูก ทว่ายังมีปากกาอีกประเภทนึงที่ถือเป็นต้นแบบของสินค้าชิ้นนี้ และมีกลุ่มผู้นิยมใช้งานในทุกยุคสมัย โดยที่ลักษณะการใช้งานนั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็คือแบบหมึกซึมนั่นเอง โดยในบทความนี้เองจะมากล่าวอธิบายถึงลักษณะเด่นของประเภทหมึกซึม ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมยังมีกลุ่มผู้นิยมใช้งานมาตลอด และมีลักษณะการใช้งานที่เรียกได้ว่ามีความพรีเมี่ยมกว่าแบบลูกลื่นและเจลให้ได้ทราบกัน
ความเป็นสินค้าต้นแบบ อย่างที่ทราบกันตามกล่าวข้างต้นว่าปากกาหมึกซึมถือเป็นต้นแบบของสินค้า หรือก็คือเป็นประเภทแรกที่ถูกคิดค้น และผลิตขึ้นมาใช้งาน ซึ่งโดยธรรมชาติความรู้สึกคนเราย่อมให้ค่ากับสิ่งที่เป็นต้นแบบมากกว่าสิ่งที่ถูกพัฒนาตามมาทีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าที่ประสิทธิการใช้งานไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ดังนั้นความเป็นสินค้าต้นแบบจึงถือเป็นลักษณะเด่นอย่างแรกที่ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากหลงใหลในปากกาหมึกซึม และมีการซื้อเก็บเป็นของสะสม ซึ่งแตกต่างไปจากประเภทลูกลื่นและเจลที่นิยมใช้งานสำหรับการจดโน๊ต บันทึกข้อความต่างๆ เท่านั้น ไม่ค่อยมีกลุ่มผู้นิยมซื้อเพื่อเก็บสะสม
ความสวยงาม ชัดเจนของน้ำหมึกที่เขียนออกมา ลักษณะเด่นอีกประการที่ทำให้ปากกาหมึกซึมแตกต่างจากแบบอื่นๆ ก็คือความสวยงาม ชัดเจนของน้ำหมึกที่ออกมานั่นเอง ซึ่งความแตกต่างนี้เองทำให้ลักษณะการใช้งานของปากกาชนิดนี้แตกต่างไปจากแบบลูกลื่นและเจล โดยมีความพรีเมี่ยมและถูกใช้งานแบบเฉพาะทางมากกว่า เช่น การใช้งานเพื่อเซ็นชื่อในเอกสาร การใช้เซ็นลายเซ็นให้แก่แฟนคลับในหมู่นักเขียน ศิลปิน คนมีชื่อเสียง เป็นต้น ความแตกต่างดังกล่าวนี้เองทำให้ปากกาหมึกซึมยังคงเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนกลุ่มนึงมากกว่าแบบอื่นๆ ในทุกยุคสมัย
มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ซ่อมแซม และเก็บรักษามากกว่า โดยทั่วไปแล้วการใช้งานปากกาแบบลูกลื่นและแบบเจล จะเป็นการใช้งานสั้นๆ ตามปริมาณ หรืออายุของหมึกที่มีถูกบรรจุมา กล่าวคือหากหมึกหมด หรือหมึกเกิดมีปัญหา เช่น แห้งจนเขียนไม่ออก เราก็มักทิ้งปากกาอันนั้นๆไปเลย และซื้อด้ามใหม่มาทดแทน เพราะโดยทั่วไปแล้วแบบลูกลื่น และแบบเจลนั้นจะมีการผลิตออกมาในรูปลักษณ์ ดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ถูกผลิตออกมาให้รองรับการซ่อมแซม เปลี่ยนน้ำหมึก หรือเปลี่ยนไส้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับปากกาหมึกซึมนั้นถูกดีไซน์ออกมาให้รองรับการปรับเปลี่ยน ซ่อมแซมได้ดีกว่า โดยน้ำหมึกที่นำมาใส่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ปากกาหลายๆ รุ่น หลายยี่ห้อถูกผลิตออกมาให้รองรับการเปลี่ยนใช้น้ำหมึกของแบรนด์อื่นๆ ได้ การซ่อมแซมเมื่อเกิดชำรุดก็สามารถทำได้ง่าย เพราะมีร้าน และช่างที่รับซ่อมแซมมาตลอดทุกยุคสมัยอยู่แล้ว และเป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มผู้ใช้งานและนักสะสม ขณะที่การเก็บรักษานั้นก็มักมีการออกแบบ ผลิตแพคเกจปากกา หรือกล่องเก็บที่เหมาะสมกับปากกาแต่ละรุ่นออกมาให้ได้เลือกหาเลือกซื้อกันมาใช้ ทำให้สามารถเก็บถนอมไอเทมชิ้นนี้ไว้ได้ตามความต้องการ