3 เทคนิคเลือกปากกาใช้งานอย่างมีคุณภาพ

ปากกา เป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นปากกาพลาสติก ปากกาโลหะ  โดยมันมีหน้าที่ในการถูกใช้เพื่อจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งทำประโยชน์ได้หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตาม เพราะมันเป็นของใช้จำเป็นจึงถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดสินค้าที่มีทั้งมาตรฐานและไม่ได้มาตรฐานวางจำหน่ายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งผู้ใช้อย่างเราเองก็จำเป็นจะต้องเลือกปากกาให้ดี เพื่อการใช้งานที่ยาวนานรวมถึงความสะดวกสบายในการเขียนตามความต้องการของตนเอง

เทคนิคการเลือกซื้อปากกาให้ได้สินค้าตรงกับความต้องการ

1.เลือกชนิดหมึก
ปกติแล้วในโซนเลือกซื้อปากกามักจะมีกระดาษให้ทดลองเขียนก่อนซื้อสินค้า ซึ่งผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้พวกเขาจะไม่ได้แค่ทดสอบความลื่นในการเขียนเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังทดสอบคุณภาพหมึกที่ปรากฏบนกระดาษ ว่ามีคุณภาพมากแค่ไหนด้วย โดยคุณภาพหมึกที่ดีจะต้องแสดงสีออกมาชัดเจน เพราะหากหมึกจางจะทำให้การอ่านมีปัญหาได้ ที่สำคัญคือหมึกต้องแห้งไว เนื่องจากมันคืออุปสรรคสำคัญในเวลาที่ต้องจดบันทึกเร็ว ๆ ซึ่งหมึกที่แห้งช้าจะทำให้กระดาษเปื้อนบดบังตัวอักษร และเลอะมือล้างออกยากด้วย ส่วนปากกาที่ใช้เขียนกันในปัจจุบันได้แก่ปากกาลูกลื่น, ปากกาหมึกซึม และ ปากกาหมึกเจล

นอกจากนี้ในกรณีที่ต้องการเลือกซื้อปากกาสำหรับใช้เซ็นเอกสาร แนะนำว่าควรเลือกปากกาที่มีความพิเศษ หัวดีพอที่จะตวัดสร้างเอกลักษณ์ให้กับลายเซ็นได้ หมึกมีความเฉพาะตัวเห็นแล้วรับรู้ได้ว่าเป็นปากกาเฉพาะของเจ้าของ โดยทั้งหมดนี้จะส่งผลให้มีความยากต่อการปลอมแปลงลายเซ็นมากยิ่งขึ้น แต่คุณสมบัติเหล่านี้มักจะอยู่ในปากการาคาแพง ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะปากกาลักษณะนี้จะช่วยประดับบารมีของผู้ใช้ได้ และส่วนใหญ่จะนิยมเลือกเป็นปากกาหมึกซึม

2.เลือกขนาดหัวปากกา
ปกติแล้วปากกาที่ผลิตกันจะมีขนาดหัวปากกาตั้งแต่ 0.3 มม. ถึง 1.0 มม. ยิ่งมีขนาดใหญ่ลายเส้นก็ยิ่งหนา โดยหัวปากกาที่มีขนาดเล็กจะมีคุณสมบัติเขียนได้ลื่นกว่า มีความรวดเร็ว และสามารถเขียนตัวหนังสือเบียดกันได้ ในขณะที่หัวปากกาขนาดใหญ่จะทำให้ดูสะอาดตา และอ่านตัวหนังสือได้ง่าย

มาตรฐานหัวปากกาที่นิยมใช้สำหรับขีดเขียนจดบันทึกทั่วไปจะอยู่ที่ขนาด 0.33 มม. กับ 0.38 มม. เพราะเป็นขนาดที่พอดี เขียนตัวอักษรได้ง่ายและมีความชัดเจน

ด้านปากกาหัวใหญ่จะเหมาะกับการเขียนลักษณะอื่น ที่ต้องการความชัดของประโยค อย่างการบันทึกเนื้อหาสำคัญ หรือเน้นหัวข้อ หากเป็นการจดทั่วไปคิดว่าน่าจะเข้ากับคนมือนิ่งเสียมากกว่า เพราะต้องใช้แรงเขียนพอสมควร เนื่องจากหัวปากกาแบบนี้มักจะเส้นขาด ควรเลือกขนาด 0.7 มม. มากกว่าแบบ 1.0 มม. เพราะเป็นหัวปากกาที่ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าจะเป็นปากกาของแบรนด์ดัง

3.เลือกปลอกปากกาที่จับถนัดมือ
ปากกาที่จับถนัดมือจะช่วยให้ฟิลลิ่งการเขียนมีความต่อเนื่อง ไม่รู้สึกลำบากขณะจดบันทึก แล้วปากกาซึ่งมีรูปร่างที่ดีควรจะเป็นอย่างไร ? คำตอบคือต้องเป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา และที่บริเวณปลอกจะต้องมีความผอม มีส่วนโค้งเล็กน้อย เพราะหากเป็นปากกาที่มีลักษณะอ้วน บริเวณปลอกมีส่วนโค้งเยอะ จะทำให้เมื่อยนิ้วเมื่อต้องจดเขียนนาน ๆ โดยส่วนใหญ่ปากกาแบบนี้มักพบในปากการาคาแพง ที่เหมาะสำหรับการเซ็นชื่อมากกว่า
และนอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาแล้ว ปากกาที่ปลอกทำจากวัสดุยาง ก็นับเป็นอีกคุณสมบัติที่น่าใช้ เนื่องจากออกแบบมาให้จับง่ายไม่ลื่นนิ้ว จดเขียนไม่ลำบากเมื่อเหงื่อออกมือ

แน่นอนว่าปากกาที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายราคา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกปากกาที่มีราคาถูกไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งของที่ต้องใช้แล้วทิ้ง และมักหายบ่อย แต่สำหรับผู้ที่ต้องทำงานเอกสาร รวมถึงนักเรียน การเลือกปากกาที่มีคุณภาพสักด้ามเป็นของใช้ประจำตัว ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะมันจะช่วยยกระดับการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว