ส่อง 5 แบรนด์ปากกาเจลคุณภาพดี หาซื้อง่าย ในราคาเบาๆ

หากจะให้แบ่งเกรดเครื่องเขียนชิ้นสามัญอย่างปากกา ก็แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 เกรดด้วยกัน ซึ่งก็คือ สินค้าเกรดใช้งานทั่วไป ซึ่งมีราคาเพียงหลักสิบบาท กับสินค้าเกรดพรีเมี่ยมจากแบรนด์ผู้ผลิตชื่อดังต่างๆ ที่เน้นผลิตปากกาที่ทำตัวด้ามจากวัสดุโลหะ มีดีไซน์ที่เรียบหรู เหมาะสำหรับซื้อเก็บเป็นของสะสม มอบเป็นของขวัญ หรือพกพาไว้สำหรับเซ็นชื่อ ลงลายมือชื่อในเอกสารเพื่อเสริมบุคลิกให้กับคนวัยทำงาน โดยมีช่วงราคาจำหน่ายตั้งแต่หลักหลายร้อยบาทไปจนถึงหลายพันบาท อย่างไรก็ตามหากจะให้แบ่งเกรดให้ละเอียดขึ้นอีกสักนิด ก็ต้องบอกว่าควรจะต้องเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งเกรด ซึ่งก็คือปากกาเกรดใช้งานคุณภาพ ที่เรียกว่าอยู่กึ่งกลางระหว่างสินค้าเกรดใช้งาน กับเกรดพรีเมี่ยม เกรดสะสม โดยปากกากลุ่มนี้จะทำตัวด้ามด้วยวัสดุ ปากกาพลาสติกเช่นเดียวกับสินค้าเกรดใช้งานทั่วไป แต่จะมีการใส่ใจในรายละเอียดดีไซน์ คุณภาพการขีดเขียนที่ดีกว่า และนิยมเลือกใช้น้ำหมึกแบบเจล โดยวางจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้นมา(หลักหลายสิบบาทต่อด้าม) ซึ่งในบทความนี้จึงได้คัดเอา 5 แบรนด์ปากกาเกรดใช้งานคุณภาพ ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านหนังสือและร้านเครื่องเขียนชั้นนำ มาแนะให้ได้ทราบกัน

Paper Mate แบรนด์แรกที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อกันสักเท่าไหร่ แต่ถือว่ากำลังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มนักเรียนนักศึกษา และคนวัยทำงานก็คือแบรนด์ Paper Mate นั่นเอง โดยสินค้าจากเปเปอร์เมทถือว่ามีจุดเด่นหลายอย่างทีเดียว ทั้งดีไซน์สินค้าที่หลากหลาย โลโก้รูปหัวใจคู่ที่เป็นเอกลักษณ์และนับเป็นไฮไลท์ของแบรนด์ที่ดึงดูดใจกลุ่มผู้ใช้งานนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานรุ่นใหม่ได้ดีทีเดียว การกำหนดช่วงราคาที่ถือว่าค่อนข้างย่อมเยา เมื่อเทียบกับปากกาเกรดเดียวกันจากอีกหลายแบรนด์ โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณด้ามละ 40-50 บาท เท่านั้น อย่างไรก็ตามข้อเสียของแบรนด์นี้ก็คือ สินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามป๊อปอัพช้อปในร้านหนังสือ หรือร้านเครื่องเขียนชื่อดังทั่วไป มักจะเป็นหมึกสีมาตรฐานอย่างสีน้ำเงิน และสีดำเท่านั้น อาจจะหาน้ำหมึกสีอื่นๆ ยากหน่อย

Pentel แบรนด์นึงที่แน่นอนว่าเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับผู้ใช้งานที่มองหาปากกาเกรดใช้งานคุณภาพดีก็คือ Pentel นั่นเอง โดยเพนเทลนั้นถือได้ว่าเป็นผู้นำตลาดปากกาเจลในบ้านเรา อาจเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกๆ ที่รุกจำหน่ายสินค้าแบบหมึกเจล และสามารถทำแบรนด์ติดตลาด ให้ผู้คนถามถึงได้ในชื่อ Pentel Energel ซึ่งจุดเด่นของเพนเทลก็คือความหลากหลายของสีสันน้ำหมึก โดยนับเป็นแบรนด์ปากกาเจลที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกหาน้ำหมึกสีรองต่างๆ(นอกเหนือจากสีน้ำเงินและดำ) ได้เยอะที่สุดแบรนด์นึง นอกจากนี้ยังมีขนาดหัวให้เลือกหลากหลายด้วย สำหรับราคาจำหน่ายสินค้ารุ่นหมึกเจลของเพนเทลนั้นจะอยู่ที่ประมาณด้ามละ 50-60 บาท นอกจากปากกาเจลแล้ว เพนเทลยังมี ปากกาเน้นข้อความ ที่มีคุณภาพเช่นกัน จึงทำให้เป็นแบรนด์ที่มีเครื่องเขียนหลายแบบตอบโจทย์ได้หลากหลายการใช้งาน

Pilot แบรนด์ต่อมาที่ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพในตลาดปากกาเจลบ้านเรา ซึ่งเลือกซื้อเลือกหาได้ง่ายตามป๊อปอัพช้อปในร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปก็คือ Pilot นั่นเอง โดยไพลอทถือเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมีฟีดแบ็กที่ดีจากผู้ใช้งาน ได้รับคำชื่นชมในเรื่องของคุณภาพการเขียนที่ลื่นไหล สีสันน้ำหมึกที่สวยงามชัดเจน นอกจากนี้ไพลอทยังมีจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู แม้จะผลิตตัวด้ามด้วยพลาสติก สำหรับราคาจำหน่ายปากกาเจลของ Pilot นั้นจะอยู่ที่ประมาณด้ามละ 80-90 บาท ซึ่งถือว่าเป็นช่วงราคาที่สูงขึ้นมาอีกนิดเมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ แต่ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียวเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้สำหรับคนที่ต้องการความพรีเมี่ยมมากขึ้น ไพลอทยังมีการผลิต ปากกาโลหะ สำหรับคนทำงานที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพด้วย

Horse แบรนด์นึงที่ถือว่าเป็นผู้นำตลาดเครื่องเขียนในบ้านเราอยู่แล้ว และแน่นอนว่าหลายคนรู้จักคุ้นเคยกับชื่อและโลโก้ของแบรนด์เป็นอย่างดีก็คือ Horse หรือ ตราม้านั่นเอง ซึ่งแบรนด์ Horse เองก็มีการทำปากกาหมึกเจลออกมาวางจำหน่ายหลายรุ่นด้วยกัน โดยมีจุดเด่นที่ราคาที่ค่อนข้างย่อมเยา ซึ่งเริ่มต้นที่ประมาณด้ามละ 20  บาทเท่านั้น

Uni อีกหนึ่งแบรนด์ปากกาเจลคุณภาพที่หาซื้อได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงานได้ดีก็คือ Uni นั่นเอง โดยสินค้ารุ่นหมึกเจลของ Uni นั้นมีให้เลือกหลายรุ่น หลายดีไซน์ และหลากหลายขนาดหัว ทั้งขนาด 0.35mm, 0.5mm และ 0.7mm มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณด้ามละ 35 บาท