เหตุใด เราจึงเรียกลักษณะนามของปากกาเป็นด้าม
ปากกานับว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนชนิดหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อพวกเราเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา หรือแม้แต่ในการทำงาน หรือแม้แต่การใช้ในงานศิลปะ หรือจดบันทึกเรื่องมากมาย เราต่างใช้ปากกากันทั้งนั้น อุปกรณ์เครื่องเขียนชิ้นนี้มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ และอยู่คู่กับมนุษย์เรามาอย่างยาวนานแล้ว ได้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย ที่บ่งบอกว่าอุปกรณ์เครื่องเขียนชิ้นนี้อยู่กับเรามานาน นานตั้งแต่เราเริ่มที่จะจดบันทึกเรื่องใดๆ ไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบัน ผู้คนก็ยังคงใช้ปากกากันจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจมาชวนขบคิดกัน ว่าเหตุใดกัน เราจึงเรียกลักษณะนามของปากกาว่าด้าม แต่กลับกัน อุปกรณ์เครื่องเขียนอีกชิ้นหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกัน อย่างดินสอ เรากลับเรียกดินสอว่าแท่ง ทั้งที่อุปกรณ์เครื่องเขียนทั้งสองนี้มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะไม่มีข้อมูล ที่บ่งบอกอย่างแน่ชัดว่าเรื่องนี้จริงเท็จเพียงใด แต่ก็ได้มีผู้วิเคราะห์ไว้มากมาย ถึงเหตุผลที่ใช้ลักษณะน้ำของเครื่องเขียนทั้งสองชนิดแบบนี้ และวันนี้เราจะไปดู ถึงความแตกต่างของเครื่องเขียนทั้งสอง
ลักษณะนามของดินสอไม้
อย่างที่เรารู้กันว่า ลักษณะนามของดินสอนั้น คือ “แท่ง” อาจจะเป็นเพราะว่า แรกเริ่มเดิมทีการประดิษฐ์ดินสอขึ้นมานั้น เราได้ทำการใช้แท่งไม้ มาเหลาเป็นแท่งขนาดพอดีมือ ก่อนที่จะเจาะรูบริเวณตรงกลางของดินสอ และได้ทำการใส่แกรไฟต์ลงไปตรงกลาง ก่อนที่จะทำการประกบเข้าหากันและนำมาใช้งาน และอีกมุมหนึ่ง ดินสอก็มีลักษณะเป็นแท่งอยู่แล้ว ทำให้เราเรียกดินสอว่าแท่งจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ จะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมาก มีการประดิษฐ์ดินสอแบบใหม่ออกมามากมาย ไม่ได้ใช้แท่งไม้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทุกอย่างการประดิษฐ์ดินสอกด ที่จะทำการใส่ไส้ลงไปเอง แต่ก็ยังคงเรียกดินสอ เป็นแท่งอยู่เหมือนเดิม และแน่นอนว่า ดินสอไม้ที่เป็นดินสอแบบเดิม ก็ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งานอยู่ ดังนั้นเราจึงยังคงเรียกดินสอ ว่าแท่งเหมือนเดิม
ลักษณะนามของปากกา
ก่อนอื่นเรามาเล่าย้อนกันก่อน ปากกานั้นมีต้นกำเนิดการใช้งานมาจาก การที่ผู้คนจุ่ม ขนนกลงในน้ำหมึก จากนั้นทำการนำมาวาด หรือนำมาเขียนตัวอักษรเพื่อทำการสื่อสาร แต่โดยเรื่องแรกนั้นเป็นการสื่อสารผ่านทางรูปภาพ ซึ่งต่อมาจึงได้มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นมา เพื่อทำการสื่อสารแทนรูปภาพเหล่านั้น การใช้ขนนกวาดภาพ หรือข้อความต่างๆ นี้ หากสังเกตที่บริเวณขนนก จะมีรอยต่อระหว่างขนนกและบริเวณปลายปากกา ซึ่งบริเวณนี้เองคือด้ามจับ เพื่อใช้ในการบังคับขนนก ให้เขียนออกมาได้ดั่งใจนึก
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีผู้วิเคราะห์ออกมาว่า สิ่งนี้เป็นสาเหตุให้เราใช้ลักษณะนาม แทนปากกาว่าเป็นด้ามนั่นเอง และก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้ ปากกาจะมีออกมามากมายหลากหลายรูปแบบ และขนนกก็ไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มีการประดิษฐ์เครื่องเขียนชนิดนี้โดยใช้วัสดุหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบปากกาพลาสติก หรือแบบปากกาโลหะที่มีความสวยงามก็มีให้เห็นอยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้นในปัจจุบันทุกวันนี้ ก็ยังคงเรียกเครื่องเขียนชนิดนี้ว่าด้ามอยู่ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ข้อมูลที่นำมาเล่าให้ฟังเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ไม่ได้เป็นข้อมูลเชิงวิชาการ ที่มีการศึกษากันอย่างจริงจัง โดยการนำข้อมูลเหล่านี้ มาวิเคราะห์ควบคู่กับสิ่งต่างๆ ที่มีการเรียกขานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และน่าสนใจมากเลยทีเดียว