
5 เหตุผลที่ทำให้”ปากกาลบได้” เป็นไอเทมที่ไม่เวิร์กสำหรับการเรียน การทำงาน
หากพูดถึงนวัตกรรมปากกาแนวใหม่ในช่วงสิบปีหลังมานี้ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่หลายคนนึกถึงก็ย่อมหนีไม่พ้นปากกาลบได้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าเราทุกคนล้วนคุ้นเคยกับข้อจำกัดในการใช้งานเครื่องเขียนชิ้นนี้ที่ไม่สามารถลบข้อความที่ขีดเขียนขึ้นมาแล้วได้ โดยทำได้เพียงขีดฆ่า หรือใช้น้ำยาลบคำผิดป้ายทับลงไป ก่อนเขียนข้อความใหม่แทนที่ การมาของน้ำหมึกแบบลบได้ จึงทำให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ รู้สึกว้าวอยู่พักนึง อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า แม้นวัตกรรมเครื่องเขียนดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ปัจจุบันความนิยมในการใช้งานจริงกลับมีไม่มากนัก โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้ปากกาที่ใช้น้ำหมึกแบบดั้งเดิมอย่างเช่น ปากกาลูกลื่น ปากกาเจล ปากกาหมึกซึม ซึ่งไม่สามารถลบได้เช่นเดิม ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาเหตุผลที่ทำให้ “ปากกาลบได้” เป็นไอเทมที่ไม่เวิร์กสำหรับกิจกรรมการเรียน การทำงานต่าง ๆ และไม่ได้รับความนิยมในการใช้งานจริงมากอย่างที่แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเขียนรายต่าง ๆ คาดหวังไว้มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
น้ำหมึกแบบพิเศษ เหตุผลแรกต้องบอกว่าเป็นที่ตัวน้ำหมึกที่ใช้ในปากกาชนิดนี้นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าน้ำหมึกที่ใช้เป็นน้ำหมึกแบบพิเศษที่มีสูตรและอัตราส่วนการผสมของส่วนประกอบ น้ำ ผงหมึก สารเคมี ที่แตกต่างไปจากน้ำหมึกในปากกาลูกลื่นทั่วไป เพื่อให้น้ำหมึกที่ได้มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถลบเลือน จางหายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ทว่านอกเหนือจากคุณสมบัติที่ได้แล้ว สิ่งที่ตามมาเพิ่มเติมก็คือข้อเสียเฉพาะในตัวด้วยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเข้มชัดของสีหมึก ความลื่นไหล ฟีลลิ่งการขีดเขียนที่ไม่ดีเทียบเท่าน้ำหมึกแบบมาตรฐาน
ข้อความที่ขีดเขียนสามารถจางหายไปเองได้ เหตุผลต่อมาที่ปากกาลบได้ไม่เวิร์กสำหรับกิจกรรมการเรียน การทำงานต่างๆก็คือ ข้อความที่เราขีดเขียน จดบันทึกลงไปในกระดาษ หรือสมุดโน้ตใด ๆ นั้นมันสามารถเลือนหายไปเองได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้ลบมันก็ตาม เนื่องจากนวัตกรรมการลบน้ำหมึกดังกล่าวนี้จะอาศัยสารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับอุณหภูมิ โดยหากอุณหภูมิบนผิวกระดาษสูงเกินกว่า 50 องศาขึ้นไป ข้อความก็จะค่อย ๆ จางหายไป ดังนั้นหากเราเก็บกระดาษ หรือสมุดโน้ตไว้ในที่ที่อับ หรือปิดทึบ ขณะที่อากาศโดยรอบบริเวณนั้นร้อนจัด เช่น ในกระเป๋า ในตู้เก็บของ ก็มีความเป็นไปได้ที่ข้อความใด ๆ ที่เราจด หรือเลคเชอร์ไว้จะเลือนหายไปเอง
ไม่ใช่การลบแบบถาวร เหตุผลต่อมาที่ปากกาลบได้เป็นไอเทมที่ดูไม่เวิร์กสักเท่าไหร่ก็คือ หลักการลบน้ำหมึกของมันไม่ใช่การลบแบบถาวรนั่นเอง ดังที่กล่าวข้างต้นว่าการลบเลือนข้อความของน้ำหมึกชนิดนี้จะเป็นลักษณะของการอาศัยการทำปฏิกิริยาระหว่างสารเคมีกับอุณหภูมิ(ความร้อน) ทำให้น้ำหมึกค่อยๆเลือนหายไป ทว่าการเลือนหายนี้กลับไม่ใช่การทำให้น้ำหมึกหายไปจริง ๆ เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนสีของน้ำหมึกให้เป็นแบบโปร่งแสง เราจึงไม่สามารถสังเกตเห็นข้อความที่ขีดเขียนไว้ได้ แต่หากอุณหภูมิผิวกระดาษต่ำลงมาก ๆ เช่น ในกรณีที่นำเอาน้ำแข็งแห้งมาถูผิวกระดาษก็จะทำให้สีของน้ำหมึกกลับคืนมา และสามารถกลับมามองเห็นข้อความที่ขีดเขียนไว้ด้วยนั่นเอง
ไม่สามารถใช้ในงานที่เป็นทางการต่าง ๆ ได้ เหตุผลต่อมาที่ปากกาลบได้กลายเป็นไอเทมที่ไม่ปังอย่างที่แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเขียนหลายรายคาดหวังไว้ก็คือ การที่มันไม่สามารถใช้ในงานเขียนที่เป็นทางการได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการลงลายมือชื่อในเอกสารทางราชการต่าง ๆ หรือกระทั่งการใช้ขีดเขียนกระดาษข้อสอบในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เนื่องด้วยข้อจำกัดในตัวเองที่ข้อความอาจถูกลบ หรือเลือนหายไปเอง
สามารถใช้น้ำยาลบคำผิด(ลิควิด) ลบ/ขีดทับ ข้อความที่เขียนผิดพลาดได้อยู่แล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ปากกาลบได้ในการจดใส่สมุดโน้ต เลคเชอร์ข้อความใด ๆ ก็คือ การที่เราสามารถใช้น้ำยาลบคำผิด หรือลิควิด ซึ่งเป็นไอเทมที่ไม่ได้มีราคาแพง ในการลบ หรือขีด ป้ายทับข้อความที่เราเขียนผิดพลาดได้อยู่แล้วนั่นเอง