โรลเลอร์บอล ลูกลื่น เจล เลือกใช้ปากกาแบบไหนดี
หนึ่งในคำถาม ของผู้ที่พยายามจะเลือกปากกา สำหรับพกติดตัวไปไหนมาไหน หรือใช้สำหรับเป็นเครื่องเขียนส่วนตัว หรืออาจเป็นด้ามโปรดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือปากกาด้านพิเศษสำหรับการออกงาน คือเราจะเลือกชนิดไหนดี จะเลือกชนิดไหนได้บ้าง และมีวิธีการในการเลือกอย่างไร มีหลากหลากแบบทั้งปากกาพลาสติก ปากกาโลหะและอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้นวันนี้เอง เราจะมานำเสนอวิธีการเลือกปากกาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป มันมีชนิดใดบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้เริ่มต้น และสนใจในการเลือกอุปกรณ์เครื่องเขียนชนิดนี้อย่างพิถีพิถัน ว่าเราจะเลือกแบบลูกลื่น แบบโรลเลอร์บอล แบบเจล หรืออาจจะเป็นแบบหมึกซึมดี
ลูกลื่น โรลเลอร์บอล และเจล
ปากกาแบบลูกลื่น แบบโรลเลอร์บอล และแบบเจล ทั้ง 3 ชนิด ดูไปแล้วก็แยกออกจากกันได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะแบบลูกลื่นและแบบโรลเลอร์บอล และยิ่งเป็นแบบที่ราคาไม่แพงมากนัก ที่เราหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายเครื่องเขียน ทั้ง 3 ก็มักจะวางขายอยู่ปะปนกัน บนชั้นขายปากกาทั่วไป จนเราแยกมันออกจากกันได้ยากเลยทีเดียว
เหตุผลที่เหล่านี้ไม่ค่อยถูกแยกออกจากกัน คือพวกมันมีกลไกการทำงานที่เหมือนกัน นั่นก็คือบริเวณของหัว จะมีลูกบอลลูกเล็ก ๆ ที่จะกลิ้งเมื่อถูกเขียนกับกระดาษ เพื่อที่จะให้น้ำหมึกบริเวณไส้ไหลออกมาตามปกติได้ แต่มันก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ด้วยเหมือนกัน โดยข้อแตกต่างมีดังนี้
ปากกาลูกลื่น จะมีการใช้หมึกที่ค่อนข้างข้น แต่มีคุณสมบัติแห้งไว ส่วนผสมหลักของหมึกมักจะเป็นสารที่ให้สีละลายในสารเคมีกันน้ำ ยกตัวอย่างเช่นน้ำมัน เพื่อให้เมื่อหมึกแห้งแล้วมีการทนน้ำได้ การบำรุงรักษานั้นค่อนข้างที่จะน้อย เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานแล้วมันใช้งานได้นานกว่าแบบเจลหรือแบบโรลเลอร์บอล ทั้งในแง่ของความยาวในการเขียน และอายุของหัวปากกาก่อนหมึกจะแห้ง แต่จะไม่กันสารละลายอื่นเช่นแอลกอฮอล์ และด้วยความที่หมึกของมันนั้นมีความเข้มข้นสูงมาก ทำให้ได้เส้นที่ไม่สม่ำเสมอในการเขียนบางครั้งได้ด้วย
ปากกาเจล มันจะใช้หมึกที่เกิดจากการผสมผงหมึก เขากับสารละลายจำพวกที่เป็นน้ำ โดยมีส่วนผสมของผงหมึกในอัตราส่วนที่สูง ซึ่งทางเคมีเราจะไม่เรียกสิ่งนี้ว่าการละลาย แต่เราจะเรียกมันว่าการแขวนลอย เพื่อให้ได้หมึกที่มีความเข้มข้นและหนืด แต่ก็ไม่เท่ากับแบบลูกลื่นอยู่ดี เมื่อเทียบกันแล้ว แบบเจลจะให้เส้นที่มีความลื่นมากกว่า และด้วยความที่หมึกของมันเกิดจากการผสมผงหมึกในปริมาณที่เยอะ ทำให้น้ำหมึกนั้นมีความทึบ เราจึงพบหมึกที่เขียนลงบนวัสดุสีดำ ได้ด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ด้วยความที่หมึกใช้เวลาแห้งนาน จึงมีโอกาสที่จะเปื้อนกระดาษได้ง่ายกว่า
ปากกาโรลเลอร์บอล ปกติแล้วตัวหมึกจะเป็นผงหมึกที่ละลายน้ำ กล่าวคือตัวสีและน้ำกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เหมือนกับแบบเจลที่ผงหมึกไม่ละลายในตัวทำละลาย ตัวหมึกมักมีความหนืดที่ต่ำ และแห้งง่าย เมื่อเทียบกับแบบลูกลื่น แบบโรลเลอร์เบาให้เส้นที่เรียบเนียนมากกว่า เป็นผลจากการใช้หมึกที่ไม่หนืดนี่เอง มันมีความแห้งไว เป็นผลมาจากการใช้หมึกที่ไม่หนืดเช่นเดียวกัน หมึกซึมออกกระดาษเยอะที่สุด และด้วยความที่หมึกแห้งง่าย แบบโรลเลอร์แทบทุกยี่ห้อ จึงมาในรูปแบบของแบบมีฝาปิด
ปากกาหมึกซึม ความสวยงามแฝงไปด้วยความคลาสสิก
สิ่งนี้เปรียบเหมือนอุปกรณ์เครื่องเขียนชนิดแรกของโลก โดยเราจะมาแยกประเภทจากทั้ง 3 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นเลย เนื่องจากมีกลไกการใช้งานที่เฉพาะตัว มันพัฒนามาจากแบบจุ่มที่ไม่มีกลไกสำหรับการกักเก็บน้ำหมึกภายในตัว โดยจะมีส่วนประกอบทั้งตัวหมึก ท่อส่งหมึก รางหมึก ไปสู่บริเวณหัว หลายคนยังนิยมใช้อุปกรณ์เครื่องเขียนชนิดนี้ เนื่องจากดูมีความสวยงามแบบคลาสสิก อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายอยากทำให้ลายมือดีขึ้น มีตัวเลือกที่มากขึ้น ทั้งตัวของอุปกรณ์เองและตัวน้ำหมึก